Nov 24, 2022
สธ.ขึ้นเงิน ตอบแทนบุคลากรทางการแพทย์ หลังเหนื่อยมาหลายปี ใช้งบเพิ่มปีละ 3 พันล้าน

สาธารณสุข ปรับเพิ่มค่าโอทีทุกวิชาชีพ 8% พยาบาล ได้เพิ่มจาก 600 บาทเป็น 650 บาท ใช้งบประมาณเพิ่มปีละ 3 พันล้าน ยันไม่ใช่ของขวัญปีใหม่ แต่เพิ่มให้เป็นขวัญกำลังใจ เมื่อวันที่ 23 พ.ย.65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข (สธ.) แถลงการปรับเพิ่มค่าตอบแทนบุคลากรทางการแพทย์ว่า พวกเราไม่ได้เน้นย้ำแค่พยาบาล แพทย์ หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขที่ทุ่มเทปฏิบัติงานเสียสละ ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยมาตลอดหลายปี และค่าตอบแทนก็นิ่งอยู่กับเดิมมานานแล้ว

ซึ่งปลัด สธ.บอก เป็นงบประมาณที่บริหารจัดการในกระทรวง เงินบำรุงต่างๆไม่ต้องของบกลาง ตนก็เลยบอกว่าก็ลุยเต็มสูบ เพราะเป็นประโยชน์ หากก่อให้เกิดขวัญกำลังใจ เกิดประสิทธิภาพงานที่ดีขึ้น รัฐมนตรีก็จะต้องเห็นชอบตามปลัด สธ.เสนอด้วยความยินดีและเต็มใจ ย้ำว่าไม่ใช่ของขวัญปีใหม่ ตราบใดถึงเวลาอันควร และสธ.สามารถบริหารงบประมาณได้โดยไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน และให้บริการประชาชน

กระทรวง สาธารณสุข

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัด สาธารณสุข พูดว่า

วันนี้ประชุมคณะกรรมการค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 1/2565 ซึ่งมีข้อเสนอแนะปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายเงินค่าตอบแทนฯ ฉบับที่ 5 เพราะเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้เพิ่มค่าตอบแทนหรือปรับค่าตอบแทนตั้งแต่ ปี 2555

โดยมีข้อสรุปก็คือ 1.ปรับเพิ่มค่าตอบแทนเรียกว่าค่าโอที ลักษณะเป็นเวรหรือเป็นผลัดนอกเวลาราชการมากขึ้น 8% มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ แพทย์ จาก 1,100 บาท เป็น 1,200 บาท, หมอฟัน จาก 1,100 บาท เป็น 1,200 บาท, เภสัชกร จาก 720 บาท เป็น 780 บาท, นักวิทยาศาสตร์ พยาบาลวิชาชีพ

นักวิชาการทางด้านสาธารณสุข จาก 600 บาทเป็น 650 บาท, พยาบาลเทคนิค เจ้าพนักงานสาธารณสุข เจ้าพนักงานเทคนิค จาก 480 บาท เป็น 520 บาท, ข้าราชการพยาบาล ข้าราชการสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่เทคนิค จาก 360 บาท เป็น 390 บาท, เจ้าหน้าที่อื่นๆตามวุฒิ จาก 360-600 บาท เป็นเพดานสูงสุด 650 บาท และลูกจ้างตำแหน่งอื่นๆจาก 300 บาท เป็น 330 บาท

และ 2.ปรับเพิ่มค่าตอบแทนเวรบ่าย/ดึก มากขึ้น 50% โดยพยาบาลผลัดบ่าย/ดึกจาก 240 บาท เป็น 360 บาท, พยาบาลเทคนิคผลัดบ่าย/ดึก จาก 180 บาท เป็น 270 บาท และเจ้าหน้าที่พยาบาลผลัดบ่าย/ดึก จาก 145 บาท เป็น 255 บาท

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน

รองปลัด สาธารณสุข กล่าวต่ออีกว่า

“มีการพูดคุยถึงคำจำกัดความของนักวิทยาศาสตร์ และนักวิชาการด้านสาธารณสุข ซึ่งมอบคณะอนุกรรมการกลั่นกรองพิจารณาตามข้อระเบียบบังคับต่างๆ ว่า ครอบคลุมกลุ่มนักกายภาพ นักรังสีทางการแพทย์ นักอาชีวะบำบัด นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ แพทย์แผนไทย นักขายอุปกรณ์ นักโภชนาการ และนักเวชศาสตร์สื่อความหมาย ตามที่ร้องขอหรือไม่ เพื่อให้ดูแลครอบคลุมทุกวิชาชีพ ซึ่งในตรงนี้น่าจะสรุปได้ภายใน 1-2 สัปดาห์หรือไม่เกิน 1 เดือน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

รองปลัด สธ. กล่าวต่ออีกว่า แล้วหลังจากนั้นจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการเกี่ยวกับเงินบำรุงของกระทรวง ซึ่งมีรองปลัด สธ.อีกท่านดูแล ก็จะมองว่ามีความสมดุลหรือเปล่า เป็นภาระหน้าที่เงินบำรุงไหม ซึ่งในเบื้องต้น ผู้อำนวยการกองเศรษฐกิจและสุขภาพ รายงานว่าพวกเรามีเงินบำรุงในภาวะพอจ่ายได้ ไม่น่าเกิน 3 พันล้านบาทต่อปี เมื่อเทียบเงินบำรุงสถานะที่มีอยู่ในเวลานี้น่าจะอยู่ในกำลังที่ทำงานได้

แล้วหลังจากนั้นจะปรึกษาไปที่กรมบัญชีกลาง ซึ่งพวกเราพยายามทำให้เร็วสุด ทั้งนี้ การจ่ายค่าตอบแทนอีกทั้ง 2 ตัวนี้ใช้เงินบำรุงมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาไม่มีประเด็นอะไรยังใช้เงินบำรุงจ่ายได้ ส่วนที่ถามคำถามว่าการเพิ่มจะเป็นภาระไหม อย่าง 8% หลาย 10 ปีแล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยมาเพิ่ม พวกเราก็ใช้เกณฑ์เมื่อเทียบกับค่าเงินบาทที่มากขึ้นด้วย

ส่วนอนาคตข้างหน้ากระทบไหม กองเศรษฐกิจและสุขภาพดูแล้วไม่กระทบมากสักเท่าไรนัก อยู่ในวิสัยที่จะหาและชดเชยในอนาคตได้ เพราะเหตุว่ามีการพยากรณ์รายรับไปข้างหน้าโดยใช้ฐานของปี 2561-2565 ก็ยังไปได้

ถามคำถามว่า พวกเรามีเงินบำรุงมากขึ้น สภาพคล่องมากขึ้นจากโควิด หลังหักลบกลบหนี้เหลือเยอะแค่ไหนในการเอามาใช้ นพ.ทวีศิลป์ พูดว่า จากที่บอกว่ารายรับแสนกว่าล้านบาท ยังไม่ได้หักค่ายา เอทีเค ค่าเครื่องมือต่างๆเมื่อหลักลบกลบหนี้สินก็เหลือประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาท ที่มีอยู่ ก็ไม่ถือว่าเยอะหรือน้อย แต่ก็พอมี ก็รีบเอามาเพิ่มเติมให้แก่ผู้ทำงาน นอกจากนี้ ยังสามารถปรับเกลี่ยในระดับเขตสุขภาพได้ในการช่วยเหลือ

เมื่อถามคำถามว่า ระเบียบบังคับหรือเปล่าว่า โรงพยาบาลทุกแห่งต้องค่าตอบแทนอัตรา 8% และ 50% หรือจะต้องดูสถานะการเงิน โรงพยาบาล นพ.ทวีศิลป์ พูดว่า ตรงนี้เป็นเกณฑ์ล่าสุดว่าอย่างน้อยทุกคนจะต้องได้เท่านี้ แต่ก็มีระเบียบของบางจังหวัดบางพื้นที่ที่มีงานเยอะ เป็นอำนาจจังหวัดมากขึ้นได้ไปอีก ตัวอย่างเช่น เพิ่มขึ้นเท่าตัว ระดับเขตเพิ่ม 2 เท่าตัว ถ้าเกิดพิสูจน์ได้ว่าทำงานมากจริง คนไม่เพียงพอ ควงเวรจนเติมคนไม่ได้ เป็นอำนาจผู้บริหารในจังหวัดปรับเพิ่มให้

นพ.ทวีศิลป์

กระทรวง สาธารณสุข

เป็นหน่วยงานราชการส่วนกลางประเภทกระทรวงของไทย ทางกระทรวงมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพอนามัย การป้องกัน ควบคุม และรักษาโรคภัย การฟื้นฟูสมรรถภาพของประชาชน และราชการอย่างอื่นตามที่มีกฎหมายได้กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขหรือส่วนราชการที่สังกัดกระทรวงสาธารณสุข

กระทรวง สาธารณสุข

 

ประวัติ สาธารณสุข

รัชกาลที่ 5ทรงจัดตั้งกรมการพยาบาลขึ้นเมื่อในวันที่ 25 ธ.ค. พ.ศ. 2431 เพื่อให้ควบคุมดูแลกิจการศิริราชพยาบาลสืบแทนคณะกรรมการสร้างโรงพยาบาลวังหน้า กรมพยาบาลมีหน้าที่จัดการศึกษาวิชาแพทย์ ควบคุมโรงพยาบาลอื่น ๆ และจัดการปลูกฝีเป็นทานแก่ประชาชน

พ.ศ. 2432 กรมพยาบาลย้ายมาสังกัดในกระทรวงธรรมการ เริ่มมีแพทย์ประจำเมืองขึ้นในบางที่ มีการนำยาตำราหลวงออกจำหน่วยในราคาถูกและตั้งกองแพทย์ไปป้องกันโรคระบาด

พ.ศ. 2448 (ร.ศ. 124) รัชกาลที่ 5ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ยุบกรมพยาบาลและตำแหน่งอธิบดีกรมพยาบาล อธิบดีกรมพยาบาลคนสุดท้ายคือ กรมหมื่นวิวิธวรรณปรีชา และก็ให้โรงพยาบาลอื่นที่สังกัดกรมพยาบาลไปขึ้นอยู่ในกระทรวงนครบาล ยกเว้นโรงศิริราชพยาบาล คงให้เป็นสาขาของโรงเรียนราชแพทยาลัย ส่วนของกองโอสถศาลารัฐบาล กองทำพันธุ์หนองฝี กองแพทย์ป้องกันโรคและแพทย์ประจำเมือง ยังคงสังกัดอยู่ในกระทรวงธรรมการตามเดิม

พ.ศ. 2451 ก.มหาดไทยได้ขอโอนกองโอสถศาลารัฐบาล กองทำพันธุ์หนองฝี กองแพทย์ป้องกันโรค และแพทย์ประจำเมืองมาอยู่ในบังคับบัญชาของก.มหาดไทย ซึ่งในชั้นแรกให้สังกัดอยู่ในกรมพลำภังค์

ในเวลาต่อมาก.มหาดไทยมีความประสงค์ปรับปรุง กิจการของกรมพยาบาลให้กว้างขวางและก้าวหน้ายิ่งขึ้น จึงนำความกราบบังคมทูลรัชกาลที่ 6 ขอพระบรมราชานุญาตเปลี่ยนชื่อจากกรมพยาบาลเป็นกรมประชาภิบาล และได้รับพระบรมราชานุญาตตามสำเนาพระราชหัตถเลขา ลงวันที่ 19 ธ.ค. พ.ศ. 2459

ในวันที่ 27 พ.ย. พ.ศ. 2461 ได้ประกาศจัดตั้งกรมสาธารณสุข โดยเปลี่ยนจากกรมประชาภิบาล และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมหมื่นชัยนาทนเรนทร อธิบดีกรมมหาวิทยาลัยเป็นอธิบดีกรมสาธารณสุข กรมสาธารณสุขอยู่ในสังกัดกระทรวงมหาดไทยเรื่อยมาจนถึง พ.ศ. 2485 จึงได้มีการสถาปนากรมสาธารณสุขขึ้นเป็นกระทรวงสาธารณสุข

วัน สาธารณสุข แห่งชาติ

More Details
Nov 22, 2022
เริ่มจับแล้ว! ตร.เข้มพนันบอลโลก เตือนเด็กๆล็อกอินเข้าเว็บพนัน ตามเจอจะเสียอนาคต

พนันบอล โลก เตือนเยาวชน ล็อกอินเข้าเว็บพนัน ตามเจอเสียอนาคต ฝากไปถึงยูทูบเบอร์คิดให้รอบคอบก่อนรับงาน คาดโทษผกก.หากปล่อยเดินโพยใกล้โรงเรียน เมื่อวันที่ 21 พ.ย 65 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นปธ.ในการประชุมมาตรการป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งที่ 22 โดยหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องได้เข้าร่วมการประชุมฯผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ได้กล่าวว่า

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พลตตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและตนเป็นผู้ควบคุม กำกับ ดูแล พร้อมกำชับไปยังหน่วยงานในสังกัด พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า ฟุตบอลโลก 4 ปี มีหนึ่งครั้ง เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย-18 ธ.ค.65 ทางผบ.ตร. มีหนังสือลงวันที่ 17 พ.ย 65 ให้แต่ละกองบัญชาการไปปฏิบัติการเชิงรุกคือจัดตั้งศูนย์ปราบปรามการทายพนันบอลโลกขึ้น โดยการประชุมวันนี้ได้สั่งการให้ทุกกองบัญชาการประชาสัมพันธ์ เรื่องผลจากการเล่นการพนันและสร้างการรับรู้ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนต้องขับเคลื่อนร่วมกัน จึงมีความกังวลว่าจะมีบุคคล หรือเยาวชนเข้ามาเล่นหรือพัวพันกับการทายผลฟุตบอลโลกในครั้งนี้

ผู้ช่วย ผบ.ตร.

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ได้กล่าวอีกว่า

เรื่องการพนันออนไลน์การหลอกลวงออนไลน์ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญอยู่แล้ว แต่สถานการณ์ในขณะนี้ที่จะมีความเข้มข้นขึ้นก็คือมีฟุตบอลโลก อาจจะลำบากในการควบคุมเนื่องจากเว็บพนันออนไลน์มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ต่างประเทศ จึงเข้มในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวด อะไรที่มีความเกี่ยวข้องกับพ.ร.บ.ฟอกเงินต้องรีบยึดและอายัดทรัพย์ให้เร็วขึ้นและนำกฎหมายฟอกเงินเข้ามาบังคับใช้ มีหลายหน่วยงานดำเนินการช่วยกันทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ป.ป.ง. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เมื่อตรวจเจอเว็บผิดกฎหมายจะต้องดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ดังกล่าว

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ได้กล่าวว่า เว็บไซต์พนันส่วนใหญ่จะอยู่บนออนไลน์ ซึ่งได้จับกุม ปิดเว็บไซต์ และยึดทรัพย์อย่างต่อเนื่อง แต่ฟุตบอลโลกครั้งนี้ตำรวจมีความกังวลว่าจะมีการเดินโพย ซึ่งทางพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กำชับว่าถ้ามีกรณีตั้งโต๊ะแทงบอลที่เป็นออนกราวน์หรือเดินโพย ใกล้สถานการศึกษาทางผู้กำกับสถานีตำรวจจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ตามคำสั่ง 234/2558 ซึ่งจะจัดชุดส่วนกลางลงไปตรวจสอบกรณีตั้งโต๊ะแทงบอล ซึ่งในปัจจุบันไม่ค่อยพบ เนื่องจากได้ปรับเปลี่ยนมาอยู่ในรูปแบบออนไลน์มากขึ้น

ทั้งนี้ ตั้งแต่เปิดสนามทางตำรวจจับกุมไปบางส่วนแล้ว แต่ก็จำนวนไม่มาก และได้เฝ้าระวังเว็บไซต์อีกเป็น10,000เว็บไซต์ สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดในขณะนี้คือ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดนำพ.ร.บ.ฟอกเงินมาบังคับใช้ให้มากที่สุด

พนันบอล มีความเสี่ยง อย่าคิดเล่น

พนันบอล มีความเสี่ยง อย่าคิดเล่น

“ฝากเตือนน้องๆเยาวชน ครอบครัว และพ่อแม่ จะต้องบอกบุตรหลาน หากเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทายผลพนันฟุตบอล จะมีประวัติในการล็อกอินเข้าเว็บไซต์พนันออนไลน์ หากตำรวจสืบค้นและจับกุมผู้เล่นพนันออนไลน์ อาจจะเสียอนาคตได้ เพราะอาจถูกเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ฐานเล่นการพนันโดยผิดกฎหมาย

ฝากถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือได้รับความนิยม อย่างเช่น พริตตี้ อินฟลูเอนเซอร์ ยูทูเบอร์ต่างๆ ก่อนจะรับงานโฆษณาต่างๆ ให้พิจารณาให้รอบคอบก่อน คลิปที่ท่านพูดอาจไปโฆษณาชักชวนให้บุคคลอื่นเล่นการพนัน ขอเตือนว่ามีความผิดตามพ.ร.บ.การพนัน มาตรา 12 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท” ผู้ช่วย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าว

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งให้เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในรูปแบบการประทุษร้ายต่อทรัพย์ตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ห้างร้าน ธนาคาร ร้านทอง ร้านสะดวกซื้อ และตู้กดเงินอัตโนมัติ (ATM)

อีกทั้งเฝ้าติดตามกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะก่อเหตุอาชญากรรม และกลุ่มที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบ อย่างใกล้ชิด และกำชับไปยังข้าราชการตำรวจทุกนาย ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการพนันนี้ ทั้งการเป็นผู้เล่น มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือเรียกรับผลประโยชน์ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม หากพบการฝ่าฝืนจะดำเนินการทั้งทางอาญาและทางวินัย โดยเด็ดขาด

ทั้งนี้ หากพบเห็นการทำผิดกฎหมายดังกล่าว กรุณาแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชม.

ป้องกัน พนันบอล

พนันบอล 6 ข้อ ป้องกันเด็กให้ห่างไกล

1. คุยกับลูกบ่อยๆ
คุณพ่อคุณแม่ควรจะคุยกับลูกบ่อยๆ อย่ารอให้เจอพฤติกรรมเสี่ยงถึงค่อยจัดการ โดยเด็กๆ ที่เสี่ยงต่อการติดพนันจะมีช่วงอายุ 9-13 ปี แต่ก็ไม่ควรซักไซ้จนลูกอึดอัด ให้เน้นเป็นการพูดคุยแบ่งปันเรื่องราวกัน และช่วงเวลาที่ดีในการคุยกันก็มักเป็นช่วงมื้อเย็นนั่นเอง

2. รู้เท่าทันพนันออนไลน์
การรู้ทันว่าพนันออนไลน์เป็นอย่างไร มีช่องทางการเล่นที่ไหน จ่ายเงินอย่างไร ผ่านตรงไหนบ้าง จะช่วยทำให้คุณพ่อคุณแม่สอดส่องลูกได้ดีมากยิ่งขึ้น

3. สอนจากข่าว
ยกกรณีตัวอย่างด้วยการนำข่าวที่มีบุคคลเล่นการพนันแล้วเจอผลลัพธ์ที่ไม่ดีมาเล่าให้ลูกฟัง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เพราะการทำให้ลูกเห็นตัวอย่างย่อมดีกว่าการพยายามบอกว่าการพนันเป็นสิ่งไม่ดีเฉยๆ

4. ตั้งกฎระเบียบ
การกำหนดกฎระเบียบในครอบครัว แล้วสอนลูกด้วยเหตุด้วยผล จะทำให้เด็กเติบโตมาแบบมีเหตุผลว่าทำไมถึงควรทำสิ่งดีๆ และช่วยลดพฤติกรรมเสี่ยงลงได้

5. เป็นตัวอย่างที่ดี
ทัศนคติของครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ เพราะลูกย่อมได้รับอิทธิพลในการใช้ชีวิตมาจากคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งงถ้าทัศนติในครอบครัวมองว่าการพนันเป็นสิ่งไม่ดี และพ่อแม่ไม่เล่นเป็นตัวอย่างเด็กก็จะซึมซับได้

6. สนุกได้ด้วยกิจกรรมอื่น
การป้องกันเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องเคร่งเครียดเสมอไป เพราะคุณพ่อคุณแม่สามารถชักจูงลูกด้วยกิจกรรมที่เด็กสนใจ ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย ชวนเล่นนอกบ้าน ชวนไปเที่ยว เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวกันด้วย

หากพบว่าลูกเล่นการพนันแล้วไม่สามารถแก้ไขได้ ก็อาจต้องลองปรึกษานักจิตวิทยาเด็ก หรือผู้เชี่ยวชาญเรื่องเด็กและวัยรุ่น เพราะมีบางกรณีที่เด็กเป็นโรคซึมเศร้าเนื่องจากติดการพนัน และต้องรักษาอาการซึมเศร้าควบคู่กันไปด้วย โทร 1323 สายด่วนเลิกพนัน ฟรี 24 ชม.

 

ที่มา : www.parentsone.com

กฎหมายการพนันอื่นๆ
กฎหมาย พนันบอล กฎหมายการพนันอื่นๆ ล่าสุด ติดคุกกี่ปี มีโทษอย่างไร

ประเทศไทยใช้พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 เป็นกรอบในการกำหนดนโยบายและเป็นการควบคุมการพนันในประเทศ ซึ่งในตามกฎหมายห้ามมิให้เปิดบ่อนพนัน เข้าเล่น ทายทำนาย รวมทั้งเข้าพนันภายในประเทศ ยกเว้นกรณีที่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ หรือมีกฎกระทรวงอนุญาตให้จัดขึ้นได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาต ผู้ฝ่าฝืนมีโทษต่ำสุดจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 500 บาท สูงสุดจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท ซึ่งตามกฎหมายไทยแบ่งแยกการพนันออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

บัญชี ก. ซึ่งห้ามเล่นโดยเด็ดขาด ได้แก่ หวย ก.ข. ไฮโล บาคารา ฯลฯ

บัญชี ข. ซึ่งสามารถเล่นได้แต่ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อน อาทิ การละเล่นต่างๆ ซึ่งให้สัตว์ต่อสู้หรือแข่งขันกัน การชกมวย ฟุตบอลโต๊ะ จับสลาก สลากกินแบ่ง สลากกินรวบ เป็นต้น ยกเว้นสลากกินแบ่งที่ออก
โดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งได้รับอำนาจจากรัฐบาลตามพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 ให้ถือว่าเป็นการออกสลากกินแบ่งที่ได้รับใบอนุญาตและประทับตราจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน และไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมและค่าภาษีใดๆ ตามกฎหมาย

สำหรับการพนันออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเล่นเกมไพ่ สล็อต รวมถึงการพนันบอล ถือเป็นการพนันตามบัญชี ก. ที่ห้ามเปิดให้บริการ รวมถึงห้ามเล่นโดยเด็ดขาด แม้ว่าการตรวจสอบและจับกุมจะทำได้ยากเนื่องจากผู้เล่นๆ อยู่ที่บ้าน แต่หากถูกจับกุมก็อาจได้รับโทษปรับหรือจำคุกด้วยเช่นเดียวกัน

พ.ร.บ. การพนัน 2478 (พระราชบัญญัติการพนันพุทธศักราช 2478)
มาตรา 12 ระบุว่า ผู้ใดจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานหรือรับอนุญาตแล้วแต่เล่นพลิกแพลง หรือผู้ใดเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นอันขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวง หรือข้อความในใบอนุญาต ผู้นั้นมีความผิดต่อไปนี้

(1) ถ้าเป็นความผิดในการเล่นตามบัญชี ก. หมายเลข 1 ถึงหมายเลข 16 หรือการเล่นตามบัญชี ข. หมายเลข 16 เฉพาะสลากกินรวบ หรือการเล่นซึ่งมีลักษณะคล้ายกันนี้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปจนถึง 3 ปี และปรับตั้งแต่ 500 บาท ขึ้นไปจนถึง 5,000 บาท ด้วยอีกโสดหนึ่ง เว้นแต่ผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันที่เรียกว่าลูกค้า ให้จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

(2) ถ้าเป็นความผิดในการเล่นอื่นใดตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เว้นแต่ความผิดตามมาตรา 4 ทวิ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากเคยโดนจับ แล้วมีการกระทำผิดซ้ำหลังจากโดนจับครั้งแรกภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี โทษที่ได้รับครั้งหลังจะหนักขึ้น 2 เท่า และอาจจะโดนจำคุกโดยไม่รอลงอาญา ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 14 ทวิ

มาตรา 14 ทวิ… ผู้ใดกระทำความผิด ต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัตินี้เมื่อพ้นโทษแล้วยังไม่ครบกำหนดสามปีกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัตินี้อีก

(1) ถ้าโทษซึ่งกำหนดไว้สำหรับความผิดที่กระทำครั้งหลังเป็นโทษจำคุก และ ปรับให้วางโทษทวีคูณ

(2) ถ้าโทษซึ่งกำหนดไว้สำหรับความผิดที่กระทำครั้งหลังเป็นโทษจำคุก หรือ ปรับให้วางโทษทั้งจำทั้งปรับ

หากกรณีผู้จัดให้มีการเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยมีวงเงินในการกระทำความผิดรวมกันมีมูลค่าตั้งแต่ 5,000,000 บาทขึ้นไป หรือเป็นการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (9) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ให้นำมาตรการฟอกเงินมาบังคับใช้ทุกกรณี

More Details
Nov 18, 2022
ฉาวสนั่นโลก! เหยี่ยวข่าวดังแฉเจ้าภาพติดสินบน “8 แข้งเอกวาดอร์” ล้มบอลนัดเปิดสนาม

กาตาร์ ได้ตกเป็นดราม่าร้อนในโลกทวิตเตอร์ทันที เมื่อเหยี่ยวข่าวดังชาวอาหรับได้ประกาศให้ชาวโลกรู้ว่า กาตาร์ เจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 โดยใช้เงินติดสินบนคู่แข่งจำนวน 265 ล้านบาท ในนัดเปิดสนามเพื่อที่จะหวังคว้า3แต้มประวัติศาสตร์

อัมจาด ทาฮา

 

อัมจาด ทาฮา นักข่าวชาวบาห์เรนที่ทำมาหากินในประเทศอังกฤษ

ได้ใช้ทวิตเตอร์ @amjadt25 ที่มีผู้ติดตามเกือบ 4.4 แสนคนเปิดเผยข้อความว่า “กาตาร์ได้ติดสินบนผู้เล่นเอกวาดอร์ 8 คน ด้วยเงินจำนวน 7.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แพ้ในนัดเปิดสนาม (สกอร์ 1-0 ประตูเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลัง) มีชาวกาตาร์ 5 คน และคนวงในของเอกวาดอร์ได้ยืนยันในเรื่องนี้ เราก็ขอให้มันเป็นเรื่องเท็จ เราก็หวังว่าการเปิดเผยในเรื่องนี้จะส่งผลถึงการแข่งขันที่จะเกิดขึ้น โลกควรต่อต้านการทุจริตของฟีฟา”

หลังจากทวิตนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไปภายในเวลาไม่ถึง 9 ชม. ก็มีคนรีทวิตเกือบ 1 หมื่นครั้ง และก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก โดยคอมเมนต์ส่วนใหญ่ก็เชื่อว่า “เป็นเรื่องจริงที่สามารถเกิดขึ้นได้” เพราะว่าการได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกครั้งนี้ของ

กาตาร์นั้น ดราม่านับตั้งแต่ชนะผลโหวตแล้ว เพราะว่าเป็นฟุตบอลโลกที่เจ้าภาพไม่เคยเล่นรอบสุดท้าย, มีข้อครหาเรื่องของเงินใต้โต๊ะอย่างหนัก, กฎระเบียบที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน แถมยังจัดในช่วงเวลาที่ไม่ปกติด้วย

แต่ในอีกฟากของเสียงส่วนน้อย ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับทวิตนี้ของนักข่าวดังมองว่า ในข้อกล่าวหานี้ไม่มีหลักฐาน เป็นการใส่ความ แม้กาตาร์จะเป็นชาติที่ร่ำรวยจริง แต่การจะล้มบอลในทัวร์นาเมนต์ระดับฟุตบอลโลกเป็นสิ่งที่ยากที่จะเชื่อ โดยเฉพาะในฟุตบอลโลกสุดดราม่าครั้งนี้ที่มีแต่คนจับจ้องอยู่ตลอด

สำหรับ อัมจาด ทาฮา เป็นชาวบาห์เรน ผู้ชำนาญข่าวในภูมิภาคอาหรับ ในปัจจุบันทำงานให้กับ เดลี เมล เป็นสื่อใหญ่ของประเทศอังกฤษ ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าตัวขึ้นชื่อเรื่องการนำเสนอข่าวต่อต้านการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกครั้งนี้ของกาตาร์มาโดยตลอด

ทั้งนี้ ฟุตบอลโลก 2022 นัดเปิดสนาม จะมีขึ้นในวันที่ 20 พ.ย. กลุ่มเอ เจ้าภาพ กาตาร์ พบกับ ประเทศเอกวาดอร์ คิกออฟ 23:00 น. ตามเวลาประเทศไทย

กาตาร์ บอลโลก

 

กาตาร์ ได้เผยข้อห้ามสำคัญที่ไม่อนุญาตให้แฟนบอลทำในฟุตบอลโลก 2022

เดอะ ซัน สื่อดังแห่งประเทศอังกฤษ รายงานว่า เจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 จะไม่อนุญาตให้กองเชียร์ในสนามใส่เสื้อโชว์ไหล่, เปิดเผยช่วงกลางลำตัวหรือเอว รวมไปถึงส่วนอื่นๆ ที่ไม่เหมาะสม หากใครฝ่าฝืนมีสิทธิ์ถูกปรับเงินและจำคุกเลยทีเดียว

แฟนบอลที่จะไปเชียร์ติดขอบสนามฟุตบอลโลกครั้งนี้ ควรต้องศึกษาข้อมูลกฎระเบียบเคร่งครัด ถึงแม้ว่าอุณหภูมิจะพุ่งสูงถึง 50 องศาเซลเซียส แต่ในเรื่องการแต่งกายต้องไม่ขัดต่อข้อห้ามของฝ่ายจัดการแข่งขัน ผู้หญิงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการเลือกเสื้อผ้าในดินแดนมุสลิมที่เคร่งครัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่สาธารณะ

รายละเอียดได้ระบุว่า ผู้หญิงที่ไม่ใช่ชาวกาตาร์ ไม่จำเป็นต้องสวมชุดปกปิดหัวจรดเท้าเหมือนสาวในกาตาร์ แต่เสื้อท่อนบนต้องมิดชิด คลุมไหล่, ลำตัว, เอว ส่วนกระโปรง, ชุดเดรส และกางเกง ต้องมีความยาวคลุมถึงหัวเข่า โดยห้ามสวมเสื้อผ้ารัดรูปหรือโชว์ให้เห็นร่องอกอย่างเด็ดขาด

เว็บไซต์ฟุตบอลโลกได้ระบุว่า “โดยในทั่วไปแล้ว ผู้คนสามารถสวมใส่เสื้อผ้าที่พวกเขาเลือกได้”

“ผู้เข้าชมควรคลุมไหล่และเข่าเมื่อได้เยี่ยมชมสถานที่สาธารณะ อย่างเช่น พิพิธภัณฑ์ และสถานที่ราชการอื่นๆ”

“อนุญาตให้สวมชุดว่ายน้ำที่ชายหาดและสระว่ายน้ำของทางโรงแรมได้”

“แฟนบอลที่เข้าชมการแข่งขันควรจะรู้ว่าไม่อนุญาตให้ถอดเสื้อในสนาม”

“นั่นก็หมายความว่า ผู้ชายจะไม่สามารถเปลือยอกได้เช่นกันเมื่ออุณหภูมิสูงเกินไป”

“ผู้ชายจะได้รับอนุญาตให้สวมกางเกงคาร์โกขายาวและชิโนสีอ่อนได้ แต่ห้ามสวมกางเกงยีนส์, กางเกงกีฬา หรือกางเกงขาสั้นที่ไม่คลุมเข่า”

“เสื้อกล้ามแขนกุดและเสื้อยืดที่มีข้อความไม่เหมาะสมซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้”

เจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022

 

กาตาร์ ได้ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 57 ว่า

ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศต้องปฏิบัติตามประเพณีและขนบธรรมเนียมของชาติ ดังนี้

“การเคารพรัฐธรรมนูญ การปฏิบัติตามกฎหมายที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ การปฏิบัติตามความสงบเรียบร้อยและศีลธรรม การปฏิบัติตามประเพณีของชาติ และขนบธรรมเนียมที่จัดตั้งขึ้นเป็นหน้าที่ของทุกคนที่อาศัยอยู่ในรัฐกาตาร์

สถานที่บางแห่งในกาตาร์จะมีกฎที่เข้มงวดกว่าที่อื่น และระบบการรักษาความปลอดภัยสามารถระบุผู้ที่ฝ่าฝืนระเบียบการแต่งกายได้ โดยเฉพาะในสนามแข่งขัน กาตาร์ได้ติดกล้องมากถึง 15,000 ตัวเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของแฟนบอลทุกคนบนอัฒจันทร์

นิยาส อาบุลราฮิมาน หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีได้กล่าวไว้ว่า “เรามีกล้องพิเศษที่มีความละเอียดสูงเพื่อซูมเข้าไปในที่นั่งเฉพาะและมองเห็นผู้ชมได้ชัดเจน มันจะบันทึกเพื่อที่จะช่วยเราในการสืบสวนหลังเกิดเหตุการณ์”

อีกข้อก็คือ ถ้ามีแฟนบอลคนไหนพยายามนำของต้องห้ามอย่างเช่นเนื้อหมู, สื่อลามก หรือ เซ็กซ์ทอย เข้ามาในกาตาร์ ก็เตรียมตัวรับโทษจำคุกได้เลย

การแต่งกาย ตัวอย่าง

 

ข้อแนะนำที่เพิ่มเติมจาก ฟีฟา ยังได้บอกอีกว่า

รัฐบาลทุกชาติต้องชี้แจงให้ผู้คนที่เตรียมมาชมฟุตบอลโลก 2022 นั้นได้ทราบชัดเจนว่า กฎหมายของประเทศกาตาร์เข้มงวดเพียงใด ซึ่งในตอนนี้ชาวอังกฤษได้รับการเตือนเกี่ยวกับกฎหมายการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งเจ้าภาพอนุญาตให้แฟนๆดื่มในพื้นที่เฉพาะเท่านั้น

นอกเหนือจากนี้ ยังมีอีกประเด็นใหญ่ เมื่อนักเคลื่อนไหวและนักรณรงค์ยังคงกังวลเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและมุมมองเกี่ยวกับการรักร่วมเพศที่กาตาร์ ต่อต้านอย่างหนัก ซึ่งถ้าแสดงออกในที่สาธารณะก็มีสิทธิ์ถูกลงโทษทั้งจำและปรับ

สำหรับนัดเปิดสนามฟุตบอลโลก 2022 เจ้าภาพ กาตาร์ จะพบกับ เอกวาดอร์ ในวันที่ 20 พฤศจิกายน เริ่ม 23:00 น. ตามเวลาประเทศไทย

นอกเหนือจากนี้ ยังได้มีการเผยด้วยว่า ค่าปรับสำหรับการทิ้งขยะไม่ถูกที่ถูกทางนั้นสูงถึง 2,400 ปอนด์ (ราว 100,000 บาท) ส่วนแฟนๆที่ฝ่าฝืนระเบียบการแต่งกายที่เข้มงวดอาจถูกลงโทษในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง

More Details
Nov 16, 2022
“กบ ไมโคร” เปิดตัวคู่ชีวิต เปรียบตัวเองเป็นตำนานดอกฟ้ากับหมาวัด

กบ ไมโคร เปิดตัวความรักครั้งใหม่ มิญซ์ นันทาภิวัธน์ พร้อมกับเล่าเส้นทางความรัก ถึงแม้จะได้เคยพบกันตั้งแต่อีกฝ่าย 15 แต่ว่าต้องแยกจากกัน เพราะตัวเองคิดว่าอีกฝ่ายคือดอกฟ้า ตัวเองคือหมาวัด และหายจากกันไป จนมาเจออีกครั้ง ขณะที่พี่กบยังมีครอบครัว ไม่ได้สานต่อ และได้ห่างหายกันไป จนจังหวะลงตัวได้กลับมาพบกันอีกครั้งที่ทั้งคู่ยังว่าง จนมีเรื่องความรักเหมือนในละครครั้งนี้ ครบทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ SHOW ออกอากาศทางช่องone 31 ที่มีอาจารย์เป็นหนึ่ง และ เบนซ์ พรชิตา ดำเนินรายการ ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้

กบ ไมโคร

บทสัมภาษณ์ในรายการคุยแซ่บโชว์

เป็นการเปิดตัวครั้งแรก?

กบ : ใช่ครับ ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จัก มีเฉพาะเพื่อนที่เล่นดนตรีด้วยกันที่รู้ว่าเราไปด้วยกันทุกคอนเสิร์ต จนกระทั่งเค้ามาเป็นเหมือนผู้จัดการส่วนตัวแล้วด้วยครับ

ทั้งสองคนคบกันมากี่ปีแล้ว?

กบ : เรารีเทิร์นกลับมาเจอกันได้ 4 ปีกว่า มาเจอกันในวันที่อายุมันเกินครึ่งทางแล้ว ก็เป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์ในชีวิต ไม่คาดคิดว่าจะเจออะไรแบบนี้

พี่กบเจอกันตอนฝ่ายหญิงอายุ 15?

กบ : ตอนนั้นพี่เพิ่งออกอัลบั้มแรกเลย มิญซ์อายุ 15 เค้ายังเป็นเด็กมัธยมอยู่เลย แต่คุณอาของมิญซ์เค้าเป็น fc ไม่โคร เค้าตามไปดูคอนเสิร์ตบ้าง ไปดูเล่นเกมส์โชว์บ้าง ก็พามิญซ์มา ตอนนั้นผมจะ 20 ปี

เห็นแล้วปิ๊งเลย?

มิญซ์ : ตอนนั้นเค้าน่ารักมากนะคะ ปลื้มในฐานะ fc ตอนนั้นเด็กยังไม่คิดถึงเรื่องนั้น

กบ : ตอนนั้นพี่ไม่คิดอย่างนั้น พี่อายุจะ 20 แล้วพี่คิดได้ เราได้แต่คิดด้วย เค้าเป็นคนที่น่ารักมากเลย เราได้โคจรไปอยู่ในชีวิตกันแค่ช่วงสั้นๆเท่านั้น ตามงานคอนเสิร์ต เกมส์โชว์ แล้วเรามีโอกาสได้ไปนั่งทานข้าวบ้านเค้า 2 ครั้ง เราอยู่ไม่ได้แล้ว คุณย่าเค้าเป็นเจ้าของคอนโด พี่มีความรู้สึกว่าพี่เป็นแค่หมาวัด เค้าเป็นดอกฟ้า เราไม่ควรไปใกล้เค้านานกว่านี้ เพราะเราเองจะหยุดตัวเองไม่ได้ แล้วชีวิตเค้ามีทุกอย่างที่เพอร์เฟคแล้ว ก็เลยแยกจากกันไปเลย

มิญซ์ : เพิ่งมารู้ทีหลัง แต่ตอนที่เค้าหายไปเราเด็ก เราไม่ได้รู้สึกอะไร คิดว่าเค้าคงยุ่งเลยหายไป วันนี้ก็รู้สึกดี แต่เสียดายเวลาเหมือนกัน

กบ : หลังจากนั้นเค้าก็เข้าสู่ชีวิตจริงของเค้าไปอเมริกาไปเรียน เราต่างคนก็ต่างไปมีชีวิตของตัวเอง ไม่คาดคิดว่าจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้งตอนปี 47 เจอกันประมาณ 2 เดือน แล้วแยกกันไปอีก

ที่กลับมาเจอกันใน 47 ต่างคนต่างมีครอบครัว ไม่ได้สานสัมพันธ์?

กบ : เรื่องของเรื่องเป็นงานคอนเสิร์ตที่เค้าทำงานอยู่จัดงาน เอาไมโครไปเล่น ก็มีผู้หญิงเดินมาถ่ายรูปที่หลังเวที บอกว่าพี่กบ มิญซ์เองค่ะ

มิญซ์ : มิญซ์เข้าใจว่าเค้าจำไม่ได้หรอก ก็ถามว่าจำได้มั้ย

กบ : จำได้ทันทีเลย แต่ไม่เห็นหน้าเค้า เห็นเป็นหน้าเด็กอายุ 15 ในวันนั้นอยู่เลย ก็ยังคิดเหมือนเดิมดอกฟ้ากับหมาวัด เรามีปมในใจ ด้วยความที่เราเป็นคนเจียมตัวลอดเวลา

มีเรื่องที่ผิดใจกัน?

กบ : วันที่กลับไปปี 47 ช่วงเวลา 2 เดือนที่ได้คุย ชีวิตเค้านะว่าง แต่ชีวิตพี่ยังมี เราจำเป็นต้องดูแลสิ่งที่เรามีอยู่ ก็เลยแยกกันไปด้วยเหตุผลที่ควรจะคนละทาง แล้วก็ไม่คิดว่าจะกลับมาเจอกันอีก ในวันนั้นมันมีความรู้สึกว่าพี่ทำผิดกับเค้าในการที่ไปไม่บอก เรื่องบางเรื่องเราคิดว่าเราไม่พูดมันง่ายกว่า ขาดสะบั้นคือหายไปเลย

มิญซ์ : ตอนนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันไม่เข้าใจ นัดกันเค้าไม่ไปแล้วก็หายไปเลยติดต่อไม่ได้อีกเลย หายไปจากชีวิตเลยค่ะ เราก็ไม่ได้ไปสานต่ออะไร เห็นว่าเค้ามีคอนเสิร์ตก็ไม่ได้ติดตามแล้ว ไม่สนใจแล้ว คิดว่าเค้าคงมีเหตุผลของเค้าเราก็กลับไปใช้ชีวิตเรา

หลังจากพี่กบแยกทางภรรยาเดิม พี่มิญซ์ก็แอดเฟสไป?

มิญซ์ : ใช่ อยู่ดีๆ ไม่รู้ไปเจอได้ไง ก็เข้าไปดูเฟสมันเป็นเค้าจริง แอดเฟรนด์แล้วทักไปนิดนึงเหมือนเพื่อน แต่ไม่ตอบกลับ เราก็คิดว่าคงไม่รับแอดแล้ว

กบ : ช่วงเวลานั้นเดินทางเล่นคอนเสิร์ต แล้วเราเป็นคนกลัวเครื่องบินไม่ขึ้นเครื่องบิน ขับรถเดินทางแล้วไม่ได้ดูเฟสบุ๊ค แล้วมีจอดรถข้างทางดูเฟสบุ๊ค เห็นแอดเฟรนด์มาก็รับเลย แล้วเช็คข้อความไม่มี รออยู่ 2 วัน เลยตัดสินใจส่งข้อความไป เราถึงเห็นว่าเค้าทักมาแล้ว

ตอนนั้นรู้มั้ยว่าพี่กบได้เลิกกับภรรยา?

มิญซ์ : ตอนนั้นไม่ได้สนใจเรื่องนั้น แค่เราไม่ได้ตามมาเป็น 10 ปี ทักไปในฐานะคนรู้จัก พอเห็นเค้าตอบก็จำไม่ได้ว่าเริ่มคุยยังไง ตอนนั้นยังไม่ได้คิดอะไร

กบ : พี่มีปมในใจตั้งแต่ปี 47 ที่เราทำกับเค้า ไม่ได้คิดว่าจะคบหาหรืออะไร แค่อยากเจอเค้าก่อนตายซักครั้งนึงในชีวิต เพื่อขอโทษ เราหาแทบตายหาไม่เจอ มาเจอในออนไลน์ ก็ทักทายคุยแล้วก็นัดเจอกัน เริ่มคุยถึงชีวิต เค้าก็บอกเล่าชีวิตเค้า เราก็บอกว่าแยกทางกับภรรยาหลังจากที่ได้บอกขอโทษเค้าแล้ว หลังจากนั้นอีก 3 วันพี่ก็ถามมิญซ์ว่าออกเดิทางด้วยกันมั้ย พี่ไปทั่วประเทศเลยไปกับพี่ได้มั้ย

มิญซ์ : ไปค่ะ ลองไปดู

พอรู้ว่าพี่กบไม่มีใครแล้ว รู้สึกยังไงบ้าง?

มิญซ์ : ตอนนั้นก็โอเค เพราะราต่างมีลูก ลูกก็โตแล้ว มีเวลาก็ลองดูว่ายังไงต่อ เราก็ไม่ได้ติดอะไร มันเหมือนอะไรเด้งขึ้นมาโผล่ขึ้นมาทำให้เราเจอ

หลังเลิกภรรยาคนเก่าเคยพูดว่าไม่อยากแชร์ชีวิตกับใครแล้ว?

กบ : ถ้าไม่ใช่มิญซ์ก็ไม่มีครับ เพราะว่าเป็นมิญซ์คนนั้น คนที่เรารู้สึกเหมือนเดิมตอนเค้ายังเด็ก เราไม่คาดคิดว่าเค้ากลับเข้ามาในชีวิต เราไม่คิดว่าจะได้เจอเค้าอีกจนตาย ไม่คิดจะได้เจอ

ตัดสินใจใช้ชีวิตด้วยกัน ครอบครัวว่ายังไงบ้าง?

มิญซ์ : เหมือนเด็กเลยนะคะ ต้องปิดบัง ที่บ้านเค้าไม่โอเคหรอกกับนักดนตรี ไม่สามารถพาเค้ามาที่บ้านได้ไปเจอกันข้างนอกเป็นปีเหมือนกัน

กบ : พี่อยู่ตัวคนเดียวอยู่แล้ว ไม่ได้ให้ทางลูกชายต้องยอมรับ ไม่ได้ไปแตะทุกคนในชีวิตเค้า เพราะพี่เคยบอกเค้าว่าเรากลับมาเจอกันยังไม่รู้เวลาอยู่ร่วมกันนานแค่ไหน เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ และไม่ไปสอดแรกไปในชีวิตของกันและกัน

มีเรื่องน้อยใจ?

มิญซ์ : ใช้ชีวิตปกติเลยค่ะ ไม่มีทะเลาะไม่มีอะไร เพียงแต่ว่าเค้าไม่สนใจวันสำคัญ

กบ : ตอนหลังพยายามใส่ใจในความรู้สึกเค้ากับวันสำคัญ พี่อาจจะหยาบๆแต่จะพยายาม

ตอนโดนโกรธ?

กบ : ทำมึนเดินไป เราเคยคุยกัน ชีวิตคนเราอย่างเราเดินทางผ่านมาครึ่งชีวิต ผ่านการมีปากเสียง ถ้าใช้ชีวิตอยู่เพื่อมีปากเสียงกันแสดงว่าเราไม่ใช่คนอยู่ด้วยกัน คำตอบมันชัดเจน

ได้วางแผนแต่งงานบ้างไหม?

กบ : ไม่มี มันผ่านมาถึงจุดที่เราได้ใช้ชีวิตให้กันในวันที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเจอกันได้นั่นคือที่สุด เรื่องกฎเกณฑ์เงื่อไขประเพณีเอาออกไปให้หมด สิ่งที่สนใจที่สุดคือการอยู่ด้วยกันทำให้เค้ามีความสุขมากแค่ไหน ชีวิตคู่เราประคับประคองของกันและคนรวมถึงคนรอบตัวเราดีที่สุดแค่ไหน

มิญซ์ : ไม่ได้คิดอยากจะมีตรงนั้น มันเป็นแค่อะไรที่ปรุงแต่ง อยากให้คนรับรู้ แค่คนที่เรารู้จักเค้าเห็นก็รู้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาสิ้นเปลืองอะไร

กบ : พี่ไม่สามารถบอกว่าเค้าเป็นศรีภรรยาได้เพราะเราไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่เราอยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตด้วยกัน ออกเดินทางด้วยกัน และเราตั้งเป้าว่าจะหมดหายใจไปด้วยกันเท่านั้นเองครับ

ผ่านช่วงที่แย่ที่สุดในชีวิต ไม่มีงานและไม่มีเงิน?

กบ : ช่วงพลิกชีวิตมันเป็นเรื่องที่ไม่ทันตั้งตัวทุกเรื่องเลย มาถึงจุดสุดทางที่เราไม่รู้ตัว วงไมโครแยกกัน อยู่กับวงพี่หนุ่ยก็ต้องออกไม่ทันตั้งตัว มีโอกาสไปเล่นดนตรีกับไท ธนาวุฒิ ช่วงนั้นเราอยู่อพาร์ทเทนต์ ในที่สุดวันนึงมาเจอมิญซ์เหมือนทุกอย่างจะดีขึ้น ไม่ทันตั้งตัวอีกเมื่อโควิดมา

ทะเลาะกับพี่หนุ่ย อำพล?

กบ : ไม่ครับในทางดนตรี เราเข้าใจกันเลย เพราะพี่หนุ่ยเค้ามีสิ่งที่อยากเล่นอีกอย่างนึง เราก็แบบเอาเลยเราก็มีทางดนตรีของเรา ไม่ได้ทะเลาะกัน อุดมการณ์ทางดนตรีเค้ามีของเค้า พี่มีของพี่ ก็เลยแยกกัน

มีโควิดเข้ามา?

กบ : งานที่อยู่ในตารางลบทิ้งหมดเลย รายได้หายหมดเลย

วงไมโคร

ประวัติและผลงานของ กบ ไมโคร

กบ ไมโคร หรือ ไกรภพ จันทร์ดี เกิดในวันที่ 14 ธ.ค. พ.ศ. 2509 เป็นมือกีตาร์ชื่อดังคนหนึ่งของประเทศไทย เคยเป็นสมาชิกของวงไมโคร และก็เคยออกอัลบั้มร้องเดี่ยวกับกีตาร์เดี่ยวอีกด้วย มีผลงานเป็นที่รู้จักจากเพลง “รักปอนปอน” ในอัลบั้มร็อก เล็ก เล็ก เป็นอัลบั้มแรกของวงไมโคร ในปี พ.ศ. 2529 ภายหลังจากอัลบั้มที่ 3 “เต็มถัง” ในปี พ.ศ. 2532 อำพล ลำพูน ก็แยกตัวออกไปเป็นศิลปินเดี่ยว กบ ไมโครจึงรับหน้าที่นักร้องนำ ต่อมากบ ไมโครแยกตัวออกจากวงไมโคร และออกอัลบั้มร้องเดี่ยว 3 อัลบั้ม คือ 1. มนุษย์กบ 2. กีตาร์ไม่มีสาย 3.ฉันทนาโคโยตี้ ผลงานเพลง ในทุกๆอัลบั้ม กบตั้งใจทำอย่างเต็มที่ จึงเป็นเพลงที่น่าฟังและฟังได้เรื่อย ๆ สำหรับคอเพลงร็อก ที่น้อง ๆ หรือคนรุ่นใหม่ที่รักเพลงร็อก น่าจะดูเป็นตัวอย่างที่ดี และยังคงเป็นมือปืนในห้องบันทึกเสียง ทำเสียงกีต้าร์ให้กับศิลปินต่างๆ เช่น บิลลี่ โอแกน, ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย และ แสน ณากา ฯลฯ

รักข้างเดียว(ช้ำอยู่แล้ว)

More Details
Nov 14, 2022
ไรเดอร์ช็อก ถูกแจ้งความ 14 โรงพัก หลังรับจ้างเปิดบัญชีม้า เหยื่อสูญกว่า 2.8 ล้าน

หนุ่มไรเดอร์ เปิดอุทาหรณ์ ถูกแจ้งความ 14 โรงพัก หลัง รับจ้าง เปิดบัญชีม้า ได้ถูกนำไปหลอก ผู้เสียหาย มากกว่า 2.8 ล้าน เตรียมขี่รถ มอเตอร์ไซค์ ไปรายงานตัวกว่า 700 กิโลเมตร

หนุ่มไรเดอร์ กับ บัญชีม้า

 

บทเรียนสอนใจ หนุ่มไรเดอร์ รับจ้างเปิดบัญชีม้า

หลังถูก มิจฉาชีพให้เปิดบัญชีธนาคารแต่ ไม่ให้ เล่มสมุดบัญชีตัวจริง แต่ให้ใช้เบอร์

ของมิจฉาชีพเปิดเป็นแอปพลิเคชั่น แทน ต่อมาถูกธนาคารอายัดบัญชีเพราะว่ามีผู้เสียหายจำนวน 14 ราย เข้าแจ้งความ

ก่อนที่จะพบความจริงว่าถูกโจรใช้บัญชีที่เปิดไปหลอกเหยื่อจนได้เงินไปกว่า 2.8 ล้านบาท ทำให้หนุ่มไรเดอร์คนนี้

กล่าวโพสต์ขอประสบการณ์ในการเดินทางด้วยรถ มอเตอร์ไซค์ เพื่อเตรียมขี่รถ มอเตอร์ไซค์ จากจ.นนทบุรี

ไปรายงานตัวที่ สภ.เหล่าเสือโก้ก จังหวัดอุบลราชธานี ตามหมายเรียกในวันที่ 15 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ เนื่องจาก ไม่มีค่ารถที่ใช้ในการเดินทาง

เกี่ยวกับเรื่องราวของไรเดอร์หนุ่มคนดังกล่าว นักข่าวได้พูดกับไรเดอร์หนุ่มที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่รับซื้อบัญชีธนาคาร คือ นายนิรันดร์ อายุ 42 ปี

ประกอบอาชีพไรเดอร์ส่งอาหาร ได้เปิดใจว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น ระหว่างที่ตนออกไปวิ่งรับส่ง

อาหารตามปกติ ปรากฏว่าตนนั่งรอออเดอร์งานมาครึ่งวันแต่ก็ยังไม่ได้สักงานเดียวเลย

หนุ่มไรเดอร์เปิดใจ

 

ลูกชายโทรหาขขอเงินค่าขนมจากตนเอง

ในเวลาต่อมา ลูกชายได้โทรมาหา เพื่อที่จะขอค่าขนม ซึ่งตน ก็ไม่มีเงินติดตัวที่จะให้ลูก ตนคิดว่า จะหาเงิน อย่างไร

เพื่อที่จะ นำไปจ่ายขนมให้ลูกก่อน ช่วงระหว่างที่รองานเด้งนั้น บังเอิญตนนั่งเล่น โทรศัพท์มือถือ ไปเล่น Facebookกลุ่มรับซื้อขายบัญชีธนาคารต่างๆ ตน

จึงทักข้อความไปหา คนที่ลงประกาศรับซื้อเพื่อลองติดต่อสอบถามรายละเอียดดู ซึ่งตนก็ได้สอบถามไปชัดเจน แล้วว่า ต้องการนำ บช.

ธนาคารไปทำอะไร ซึ่งทางมิจฉาชีพที่รับซื้อก็อ้างว่า จะนำบัญชีไปขายต่อให้กับแรงต่างด้าวที่แอบเข้ามาทำงานโดยไม่ถูกต้อง ซึ่งตนก็ได้ย้ำคำถามไปอีกครั้งว่า ถ้าตนนำบัญชีมาขายต่อให้จะไม่มีจดหมายตามมา

ใช่หรือไม่ ซึ่งมิจฉาชีพก็อ้างว่าไม่มี โดยเขาจะให้ค่าจ้างเปิดบัญชีเป็นเงิน 1,000 บาท พร้อมเงินอีก 100 บาท ที่จะต้องใช้ในการเปิดบช.กับทางธนาคาร

โดยมิจฉาชีพคนนี้บอกเงื่อนไขตนมาว่า เขาต้องการให้ตนไปเปิดบช.ของธนาคาร (ขอสงวนชื่อ) โดยให้ใช้เบอร์มือถือของเขาผูกกับบช.

เพื่อเปิดแอปฯของธนาคารไว้ด้วยความไม่เอะใจและอยากจะหาเงินไปซื้อขนมให้ลูกๆทั้ง 3 คน ตนจึงตัดสินใจนำเงิน 100 บาท

ที่มิจฉาชีพรายนี้โอนเข้าบช.ส่วนตัวมาให้ไป เปิดบช. ให้ไป ซึ่งตน ได้ รับเงินค่าจ้างมาเป็นเงินครั้งละ 500 บาท ทั้งหมด 2 ครั้ง

หนุ่มไรเดอร์ เปิดบัญชีม้า

 

ผู้เสียหายรายหนึ่งโทรมาหา หนุ่มไรเดอร์

นายนิรันดร์ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นในเวลาต่อมา ในวันที่ 17 ก.ย. ได้มี ผู้เสียหายรายหนึ่ง โทรศัพท์ติดต่อเข้ามาหา ตน พร้อมกับ สอบถามเรื่องเงินจำนวน 1.4 แสนบาท ที่โอน เข้าบัญชี ตนมา ด้วยความตกใจและไม่รู้เรื่องว่ามีเงินโอนเข้ามาที่ ตน ได้เปิดไว้ เป็นจำนวนมาก จึงได้นัด ให้ทางผู้เสียหายเดินทางมาพบกันที่โรงพัก สภ.บางใหญ่ เพื่อเป็นการ แสดงความบริสุทธิ์ใจ

ในเวลาต่อมาผู้เสียหายซึ่งเป็นสามีภรรยาเดินทางมาจากแถวหลักสอง ได้มาพูดคุยกับตนแล้ว จึงทราบว่าตนก็ถูกมิจฉาชีพหลอก ให้ไปเปิดบัญชีมาเช่นกัน จึงให้ ตนช่วยพยายามติดต่อกับทางมิจฉาชีพรายนี้ในเฟซบุ๊กให้ที เพื่อนำข้อมูลมาให้จนท.ตำรวจ แต่ปรากฏว่า ตนก็ไม่สามารถติดต่อ ทุกๆช่องทางกับมิจฉาชีพรายนี้ได้เลย เนื่องจากถูกบล็อกการติดต่อ

ธนาคารตรวจสอบแล้วพบว่า มีผู้เสียหายจำนวน 14 ราย

นายนิรันดร์ กล่าวอีกว่า ต่อมาในวันที่ 18 ก.ย. ตนจึงตัดสินใจเดินทางไปที่ธนาคารที่ตนหลงเชื่อเปิดบัญชีให้กับมิจฉาชีพไว้ จึงได้ทราบความจริงที่น่าตกใจยิ่งขึ้นไปอีก

เมื่อทางธนาคารตรวจสอบแล้วพบว่า มีผู้เสียหายถึง 14 ราย ที่ถูกมิจฉาชีพรายนี้นำบัญชีของตนไปหลอกเอาเงินผู้เสียหายมาเป็นเงินทั้งหมด 2,891,209 บาท

ก่อนที่จะถูกถอนผ่านแอปฯ ธนาคารออกไปเป็นเงิน 2,885,155 บาท เหลือติดบัญชีไว้เพียง 6,000 บาท หลังทราบความจริงจากทางธนาคารแล้ว ตน

เข่าอ่อนแทบทรุดลงกับพื้นธนาคาร เพราะไม่ได้คิดว่าบัญชีที่ตนเปิดให้มิจฉาชีพไปเพียงเพื่อที่จะต้องการนำเงินไปซื้อขนมให้ลูกๆ

จะถูกนำหลอกลวงผู้เสียหายเป็นเงินจำนวนมากขนาดนี้ ตนคงไม่มีเงินมากมายขนาดนี้หามาคืนผู้เสียหายได้ทุกคน เพราะว่าทุกวันนี้แค่รับส่งอาหารกับผ่อนจ่ายเงินกู้รายวันก็แทบ

ไม่เหลือแล้ว

หนุ่มไรเดอร์ กินไม่ได้นอนไม่หลับหลายคืน

นายนิรันดร์ กล่าวว่า หลังจากทราบความจริงที่ถูกมิจฉาชีพหลอกเปิดบัญชีแล้ว ตนกินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายคืน พยายามฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ภรรยากับลูกๆ มาช่วยไว้ทัน

ต่อมาตนเคยคิดว่าจะหนีคดีไปให้ไกล เพราะรู้ว่าคดีนี้มีผู้เสียหายถึง 14 คน ต่างกรรมต่างวาระ และต่างจังหวัดกันไป หากตนหนีคงต้องหนีไปทั้งชีวิตไม่ได้เจอหน้าลูกเมีย แต่ถ้าสู้ความจริงยอมรับว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมาจากเราที่ได้หลงเชื่อมิจฉาชีพเอง อย่างน้อยช่วงที่ติดคุกลูกเมียก็ยังมาเยี่ยมมาเจอกันได้

จึงทำให้ตนตัดสินใจว่า จะยอมรับความจริงที่เกิดทั้งหมด ไม่อยากหลบหนีไปไหนเพราะว่าตนไม่มีเจตนาที่จะไปโกงคนอื่นๆ เพราะถ้าโกงจริงตอนนี้ตนกับครอบครัวคงจะสบายไปแล้ว ได้แต่เตรียมทำใจรอรับหมายเรียกต่าง ๆ จากเจ้าทุกข์ผู้เสียหาย

จนกระทั่งต่อมามีหมายเรียกจากจนท.ตำรวจ สภ.เหล่าเสือโก้ก จังหวัดอุบลราชธานี แจ้งให้ตนเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้

หนุ่มไรเดอร์ ปรึกษาในกลุ่มไรเดอร์ เพื่อขอคำแนะนำ

ด้วยความที่ ตน ไม่ค่อยมี ค่าเดินทาง จึง ตัดสินใจว่าจะขี่ รถ มอเตอร์ไซค์ ที่ ตน

ใช้วิ่งงานอยู่ เป็นพาหนะเดินทางไปพบ จนท. ตำรวจตามหมายเรียกที่ จังหวัดอุบลราชธานี ที่ได้ มีเจ้าทุกข์แจ้งความไว้เป็น จำนวนเงิน 7.7 หมื่นบาท

จึงนำ เรื่องราวไปสอบถามเพื่อนๆ ในกลุ่มไรเดอร์ เพื่อที่จะ ขอคำชี้แนะเส้นทางในการเดินทาง

นายนิรันดร์ กล่าวว่า

ในปัจจุบัน มีกลุ่ม มิจฉาชีพ รับซื้อรับขายบัญชีธนาคารเป็นจำนวนมาก ถ้าหาก คนไม่มีประสบการณ์ เผลอ หลงเชื่อตามคำหลอกลวงของ มิจฉาชีพ ซึ่งจะเกิด

ความเสียหายตามมา ภายหลัง มากกว่าที่คิด ให้ดูกรณีของ ตน เป็นกรณีศึกษา ถ้าเป็นไปได้ตนก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงดิจิตอลและ

ตำรวจไซเบอร์ เร่งปิดกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ใน Facebook และอยากให้ช่วยสืบหาต้นต่อ ของมิจฉาชีพที่หลอก ให้ตนเปิดบัญชีให้ไปด้วยว่า เงินจำนวน

เหล่านี้ถูกโอนต่อไปยังปลายทางที่ไหนด้วย เพื่อที่จะ ติดตามนำกลับมาคืนให้ผู้เสียหายทั้งหมด อย่าให้พวกมันสบายบนความลำบากของคนอื่น เหมือนครอบครัวตน ที่กำลังเผชิญหน้า

กับเรื่องนี้ ซึ่ง ถ้า ตน ย้อนเวลาได้ตนคงไม่ตัดสินใจแบบนั้น แน่นอน คงจะ คิดได้รอบคอบมากกว่านี้ ไรเดอร์ส่งอาหาร เป็นอาชีพที่คนนิยมทำกันมาก

ตั้งแต่ช่วงโควิด เมื่อปี 2563

More Details
Nov 10, 2022
JMART ทุ่ม 1,200 ล้านบาท ซื้อหุ้น “สุกี้ตี๋น้อย” 30% เสริมทัพธุรกิจอาหาร

เว็บไซต์ thebangkokinsight ได้รายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) (JMART) มีมติอนุมัติให้เข้าลงทุน และลงนามในสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการเข้าลงทุนในบริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) ซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหารภายใต้แบรนด์ สุกี้ ตี๋น้อย จำนวน 352,941 หุ้น คิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงรวมทั้งหมด

ทั้งนี้ทั้งนั้น ถือได้ว่าเป็นการซื้อหุ้นสามัญจากผู้ถือหุ้นเดิม จำนวนทั้งสิ้น 176,471 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 15% และซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ BNN จำนวนทั้งสิ้น 176,470 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 15% มูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 1,200 ลบ. โดยดีลในครั้งนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 4/2565 ที่จะถึงนี้

สุกี้ตี๋น้อย

สุกี้ตี๋น้อย มีแผนธุรกิจในการขยายสาขา

สำหรับ BNN เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจร้านอาหารประเภทสุกี้ ภายใต้แบรนด์ สุกี้ตี๋น้อย ในปัจจุบันมีสาขารวมทั้งหมด 42 สาขาในประเทศ โดยมีแผนธุรกิจในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ในปี 2564 ผลการดำเนินงานของ BNN มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,572 ลบ. กำไรสุทธิ 148 ลบ. อัตรากำไรสุทธิ 9.41% ซึ่งมีอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ที่ 55.80% สะท้อนการเป็นบริษัทที่สร้างผลตอบแทนในระดับสูง และมีโอกาสในการเติบโตอีกมากภายในอนาคต

CEO ของ JMART

CEO ของ JMART เปิดเผยว่า เป็นการเดินหน้าแบบ(T-IHC)

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ได้เปิดเผยว่า การเข้าลงทุนในครั้งนี้ นับเป็นการเดินหน้าตามกลยุทธ์ Technology Investment Holding Company (T-IHC)

ขณะที่กลุ่มบริษัทเจมาร์ทในฐานะที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการค้าปลีก การเงิน และเทคโนโลยี ซึ่งจะช่วยให้พันธมิตรทางการค้า BNN มีการเติบโตในด้านผลการดำเนินงานให้ได้ตามเป้าหมาย พร้อมช่วยดันการขยายสาขาไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพ ทั้งในบริเวณกรุงเทพ และต่างจังหวัด รวมถึงแผนการเข้าระดมทุนในตลท.

นอกเหนือจากนี้ บริษัทยังได้เล็งเห็นว่า ธุรกิจร้านอาหารของ BNN เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ และมีโอกาสในการเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งมีความสามารถในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ภายหลังจากการเข้าทำธุรกรรม รวมถึง การต่อยอดพันธมิตรทางธุรกิจ และทำให้เกิดการผนึกกำลัง Ecosystem ที่จะมีความแข็งแรงขึ้นและมีพอร์ตธุรกิจกลุ่ม Food & Beverage เพิ่มเติม

“หลังจากผสานความร่วมมือ นำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมทัพ จะสนับสนุนให้ BNN มีความพร้อมในการขยายสาขาได้อย่างก้าวกระโดด รวมทั้งการขยายธุรกิจร้านอาหารแบรนด์ใหม่ และขยายสาขาในต่างจังหวัด และต่างประเทศ”

JMART ตี๋น้อย

เกิดเป็นความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ภายในกลุ่มบริษัท

ในขณะเดียวกัน ยังเกิดเป็นความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ภายในกลุ่มบริษัท ได้แก่ การโปรโมทผ่านสื่อช่องทางของบริษัท และนำเอาเทคโนโลยีที่บริษัทมี อย่างเช่น เทคโนโลยีทางด้าน CRM และ Promotion ที่นำมาสู่การเติบโตทางธุรกิจของกลุ่มบริษัท สร้างโอกาสในการขยายธุรกิจประเภทค้าปลีกทั้งในกลุ่มอาหาร เทคโนโลยี และพลังงานทดแทน

ในปัจจุบัน JMART ยังได้มีการหาพันธมิตรในธุรกิจค้าปลีก การเงิน และเทคโนโลยี มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการต่อยอด Ecosystem สามารถผลักดันในอนาคตเติบโตแบบก้าวกระโดด ทะยานสู่เป้าหมายมูลค่ากิจการรวมกลุ่มบริษัทที่ 5 แสนล้านบาท ในปี 2567

Jaymart

ประวัติ Jaymart

บริษัทได้ก่อตั้งเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. พ.ศ. 2531 โดยนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา และนางสาวยุวดี พงษ์อัชฌา บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกด้วยทุนจดทะเบียน 2,000,000 บาทโดยเริ่มแรกขายเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบผ่อนชำระ ต่อมา บริษัท ได้รุกเข้าสู่ตลาดค้าส่ง ด้วยผลิตภัณฑ์หลัก เช่น ทีวี, เครื่องเล่นวิดีโอ และเครื่องปรับอากาศ

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 บริษัท มีทุนชำระแล้ว 906,612,007 หุ้นมูลค่าตลาด 19,074 ล้านบาท หรือ JMART เติบโตขึ้น 35 เท่าของมูลค่า บริษัท ในรอบ 11 ปีที่จดทะเบียนในตลท.

ปัจจุบัน เจ มาร์ท ดำเนินธุรกิจบริษัทโฮลดิ้ง ที่ลงทุนในบริษัทย่อยที่มีศักยภาพ 6 แห่งและ บริษัทร่วมทุน 1 แห่ง โดยมุ่งเน้นไปที่การเงินเพื่อการค้าปลีกและรายย่อย ด้วยความร่วมมือ (Synergy) และการนำเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อผู้บริโภค

เจ้าของ สุกี้ตี๋น้อย

จุดเริ่มต้น สุกี้ตี๋น้อย

แบรนด์สุกี้ตี๋น้อย เริ่มจากไอเดียการทำธุรกิจของ “คุณนัทธมน พิศาลกิจวนิช” ผู้บริหารสาวในวัยไม่ถึง 30 ซึ่งในครอบครัวของเธอเคย มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจร้านอาหาร “เรือนปั้นหยา” มาก่อน แต่มี Pain Point ในเรื่องรักษาคุณภาพของรสชาติอาหารให้คงที่เมื่อต้องขยายสาขาเป็นจำนวนมาก เพราะด้วยลักษณะธุรกิจที่ต้องทำอาหารเสิร์ฟแบบจานต่อจาน คุณนัทธมน ได้เริ่มต้นมองหาธุรกิจร้านอาหารที่สามารถควบคุมมาตรฐานรสชาติได้ง่าย ไม่ว่าลูกค้าจะไปใช้บริการที่สาขาไหนก็ตามแต่ รสชาติอาหารก็เหมือนๆกัน ซึ่งร้านสุกี้ ชาบู สไตล์บุฟเฟ่ต์ สามารถตอบโจทย์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี จนกลายมาเป็นแบรนด์สุกี้ตี๋น้อยในปัจจุบัน สุกี้ตี๋น้อย มีสาขาในปัจจุบันรวมทั้งหมด 42 สาขา บุฟเฟ่ต์ สุกี้ 219 บาท(ราคานี้ยังไม่รวมเครื่องดื่มเเละvat7%) ซึ่งเป็นราคาที่จับต้องได้ของคนทุกๆกลุ่มทุกๆวัย

สุกี้ตี๋น้อย 42 สาขา

  • The Sense ปิ่นเกล้า
  • มาบุญครอง
  • The Paseo กาญจนาภิเษก
  • ซีคอนบางเเค
  • บิ๊กซีเพชรเกษม
  • อนุสาวรีย์ชัย
  • พหลโยธิน 19
  • รัตนาธิเบศร์
  • เพชรเกษม 69/1
  • เลียบทางด่วน
  • แจ้งวัฒนะ
  • ลาดพร้าววังหิน
  • รัชดา18
  • สวนเพลินมาร์เก็ต
  • ออนติวานนท์
  • เกษตร-นวมินทร์
  • รามอินทรา 23
  • ศรีนครินทร์ มาร์เก็ต (Supreme)
  • ราชพฤกษ์ ปั๊มคาลเท็กซ์
  • บ้านบางเขน
  • มีนบุรี
  • ศรีนครินทร์-สมุทรปราการ
  • เลียบด่วน2 (เซี่ยงไฮ้ ปิ้งย่าง)
  • เจ้าคุณ​วิลล่า
  • ลาดกระบัง 24/1
  • เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์
  • พหลโยธิน-วัชรพล
  • ตะวันนา บางกะปิ
  • JC Mall นวมินทร์
  • ลำลูกกา คลอง 2
  • The Alley รามอินทรา กม.9
  • ธนบุรี
  • The Fourth พุทธมณฑลสาย4
  • I’m Park
  • The Jas Green Khubon
  • โอโซนวัน – สรงประภา
  • Mingle Mall รังสิต
  • สายไหมอเวนิว
  • Rain Forest ถนนกิ่งแก้ว
  • โลตัส คลอง4
  • Porto Chino
  • Jas Urban ศรีนครินทร์
More Details
Nov 8, 2022
เตือนภัย! มิจฉาชีพทำเว็บลอยกระทงออนไลน์ หลอกดูดข้อมูลส่วนตัว

ตำรวจ บช.สอท. เตือนภัยมิจฉาชีพแฝงตัว ทำเว็บลอยกระทงออนไลน์ หลอกเอาข้อมูลส่วนตัว-ข้อมูลการเงิน ย้ำแนวทางป้องกัน หลีกเลี่ยงกดเว็บไซต์ปลอม กรอกข้อมูลเท่าที่จำเป็น ไม่เปิดเผยข้อมูลสำคัญลงโซเชียลมีเดีย

โฆษก บช.สอท.

โฆษก บช.สอท. ขอให้ระวังการเอาข้อมูลส่วนตัวจากเว็บไซต์

วันที่ 7 พ.ย. 2565 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยมิจฉาชีพ มักฉวยโอกาสใช้สถาการณ์วันสำคัญลงมือก่อเหตุ ผ่านโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ดังนี้

เนื่องในวันที่ 8 พ.ย. 2565 ถือเป็นวันลอยกระทง ผู้คนส่วนใหญ่ก็ออกมาทำกิจกรรม ร่วมกันสืบทอดประเพณีอันดีงาม และมีผู้คนบางส่วนที่ไม่ได้เดินทางมาร่วมกิจกรรม เพราะว่าเหตุผลหลาย ๆ ประการ โดยใช้บริการลอยกระทงออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ต่าง ๆ ของหน่วยงานรัฐ หรือหน่วยงานเอกชน ซึ่งจะมีการให้ประชาชนกรอกข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อให้อธิษฐานขอพรออนไลน์ในการลอยกระทงออนไลน์

ซึ่งเหล่ามิจฉาชีพอาจจะอาศัยโอกาสในวันสำคัญดังกล่าวสร้างเว็บไซต์ปลอมขึ้นมาทั้งหมด หรือเว็บไซต์ปลอมที่คล้ายกับเว็บไซต์จริงๆ เพื่อหลอกลวงให้ประชาชนกรอกข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลทางการเงิน เช่น ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด เบอร์มือถือ หมายเลขบัตรประชาชน เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิต เลข cvv หลังบัตร 3 หลัก รหัส OTP เป็นต้น

เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ ทั้งการนำข้อมูลไปเข้าถึงบัญชีFacebook ไลน์ โดยมิชอบ แล้วไปหลอกยืมเงินผู้อื่น หรือว่าใช้บัตรเครดิตรูดซื้อสินค้า หรือว่าถูกโอนเงินจากบัญชีธนาคาร หรือไปแอบอ้างทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย

บช.สอท. โดย พลตำรวจโทวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ซึ่งให้ความสำคัญและมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนตัวของประชาชนไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รีบวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดใน
โลกออนไลน์ทุกๆรูปแบบอย่างต่อเนื่องและจริงจัง พร้อมกับสร้างการรับรู้แนวทางป้องกันให้ประชาชนไม่ตกเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพ

การหลอกเอาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ ลอยกระทง

มาตรา 343 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

การกระทำดังกล่าวจะมีความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ “โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(1) ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โฆษก บช.สอท. ควรตรวจสอบเว็บไซต์ว่าให้กรอกข้อมูลที่จำเป็นหรือไม่

โฆษก บช.สอท.กล่าวเพิ่มอีกว่า ปัจจุบันการใช้งาน หรือเข้าถึงบริการต่าง ๆ บนสื่อโซเชียลมีเดีย ควรจะตรวจสอบให้ดีและใช้ความระมัดระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งมิจฉาชีพอาจจะใช้โอกาสหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวไปเเสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างได้ จึงขอฝากเรียนประชาสัมพันธ์ถึงวิธีหลีกเลี่ยงการถูกหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนตัว พร้อมแนวทางการป้องกัน ดังนี้

1.ระมัดระวังเว็บไซต์ปลอม หรือเว็บไซต์เสมือน หากต้องการเข้าเว็บไซต์ใดให้พิมพ์หรือกรอกชื่อเว็บด้วยตนเอง
2.อย่ากดลิงก์ที่เเนบมากับอีเมล์ หรือข้อความสั้น (SMS) ที่น่าสงสัย ไม่ทราบที่มา
3.ถ้าต้องกรอกข้อมูล ควรจะกรอกเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ถ้ามีการขอข้อมูลในส่วนที่ไม่จำเป็น ให้คาดเดาได้ว่าเป็นมิจฉาชีพแน่นอน ถ้าไม่แน่ใจให้ติดต่อสอบถามกลับไปยังหน่วยงานของรัฐ หรือเอกชนโดยตรง
4.ไม่โพสต์ข้อมูลจำเป็นลงในสื่อโซเชียลมีเดีย และควรจะตั้งค่าความเป็นส่วนตัวจำกัดผู้เข้าถึงข้อมูล
5.ตั้งรหัสผ่านให้มีความยาก ตัวอย่างเช่น ใช้อักษรตัวพิมพ์เล็ก ตัวพิมพ์ใหญ่ ใช้อักขระพิเศษ ตัวเลข มารวมกัน อย่าใช้ชุดเลขที่เกี่ยวข้องกับวันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์มือถือ และเปิดใช้งานการเข้าถึงแบบหลายชั้น เช่น การใช้ร่วมกับ OTP หรือการยืนยันตัวตนหลายปัจจัย

อีกทั้งองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 อย่างเคร่งครัด อาทิ การให้ความคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคล ด้วยการปกป้องข้อมูลส่วนตัวที่ระบุเจ้าของข้อมูลได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล เป็นต้นทั้งนี้ ถ้าพบเบาะแสการกระทำผิด หรือข้อขัดข้องใด ๆ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วนหมายเลข 1441 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 08-1866-3000 ตลอด 24 ชั่วโมง และแจ้งความออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com

More Details
Nov 4, 2022
จับแล้ว หนุ่มขี้ยาบุกทำร้ายครู ก่อเหตุเป็นครั้งที่ 3 ติดคุกมาแล้วทำอีก สุดสงสารนักเรียนร้องไห้ระงม ครูสั่งให้หลบใต้โต๊ะ

(3 พ.ย.65) นักข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้าล่าสุด กรณีเกิดเหตุคนร้ายเมายาบ้า คือ นายธานินทร์ อายุ 32 ปี เป็นชาวบ้านหนองปลาดุก ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมือง จ.นครพนม เสพยาจนประสาทหลอน โวยวายอ้างว่าครูสอนนักเรียนจนทำให้เสียงดัง เนื่องมาจากมีบ้านใกล้โรงเรียน กระทั่งก่อเหตุบุกเข้าไป ทำร้ายชกต่อยครู ผู้เสียหาย คือ นางไสว ภักดีล้น อายุ 43 ปี ครูประจำชั้น ป. 1/2 กำลังสอนวิชาคณิตศาสตร์ โรงเรียนบ้านหนองปลาดุก หมู่ 22 ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมือง จ.นครพนม ในขณะที่สอนนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1/2 บนชั้น 2 ในอาคารเรียนของโรงเรียน

หนุ่มขี้ยา โดนจับ

ครูผู้เสียหาย พยายามปิดประตูแต่ไม่ทัน

ก่อนที่คนร้ายจะเดินเข้าไปชกต่อยที่ใบหน้า 2 หมัด ก่อนเดินหลบหนีไป พร้อมทั้งโวยวายระบุว่า สอนนักเรียนเสียงดัง เนื่องมาจากทางครูผู้สอนใช้เครื่องขยายเสียงขนาดเล็กสอนนักเรียน ทั้งยังเชื่ออีกว่า คนร้ายเกิดประสาทหลอน ทำให้เกิดความไม่พอใจ และก่อเหตุไม่คาดคิดขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ก่อเหตุเคยก่อคดีทำร้ายร่างกายครู โดยใช้อาวุธเป็นฉมวกแทง ครูชายคนหนึ่ง เมื่อปี 2558 จนกระทั่งถูกจับกุมดำเนินคดี และถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี 9 เดือน พึ่งจะพ้นโทษมาได้ประมาณ 3 ปี จากนั้นมาเมื่อปี 2562 ก่อเหตุเป็นครั้งที่2 พยายามเข้าทำร้ายร่างกายชกต่อยครู คือ นางไสว ภักดีล้น อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นน้าสาว แต่ไม่มีการดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมาย จนครั้งล่าสุดมาก่อเหตุซ้ำอีกเป็นครั้งที่ 3 จึงทนไม่ไหว เข้าแจ้งความดำเนินคดี ร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนม

หนุ่มขี้ยา ทำเด็กหวาดกลัว

ผกก.เมืองนครพนม ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง วางมาตรากรป้องกันก่อเหตุซ้ำ

ในภายหลัง ทางด้าน พันตำรวจเอกณัชวิชญ์ ราชแก้ว ผกก.สถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนม ได้ประสานชุดสืบสวนลงไปยังพื้นที่ปิดล้อมติดตาม จับกุมคนร้ายได้ หลังหนีกบดานในพื้นที่ใกล้บ้านพัก พร้อมทั้งควบคุมมาสอบสวนดำเนินคดี ใน 3 ข้อหา มี บุกรุกสถานที่ราชการ ใช้กำลังประทุษร้ายคนอื่น และเสพยาเสพติดยาบ้า ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยผู้ต้องหาสารภาพทำไปเพราะเสพยาบ้า เกิดประสาทหลอน นอกจากนี้จะได้นำร่อง ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง วางมาตรากรป้องกัน การก่อเหตุร้ายของบุคคลไม่หวังดี และประสานชุมชนให้ตรวจสอบ คัดกรอง ผู้เสพ ผู้ค้ายาเสพติดในทุกชุมชนหมู่บ้าน เป็นการป้องกันการฉวยโอกาสก่อเหตุซ้ำ

ไสว กล่าวว่าโดนหลานชายชกใบหน้าเป็นครั้งที่ 3

ด้าน นางไสว ภักดีล้น อายุ 43 ปี ครูประจำชั้น ป. 1/2 โรงเรียนบ้านหนองปลาดุก หมู่ 22 ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมือง จ.นครพนม เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุขณะตนสอนนักเรียนชั้น ป.1/2 ได้มี นายธานินทร์ อายุ 32 ปี คนร้าย และยังมีฐานะเป็นหลานชาย แต่ยอมรับไม่เคยมีปัญหาที่จะเป็นชนวนเหตุให้มาทำร้ายตนเอง แต่คนร้ายมีเจตนาจะทำร้ายครู ในโรงเรียน เพราะอ้างว่าไม่พอใจที่สอนนักเรียนเสียงดัง และเคยก่อเหตุมาแล้ว ถึง 2 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ได้เดินขึ้นมาบนชั้น2ของตึก และบุกเข้าไปในห้องเรียน โดยตนเองไม่สามารถปิดประตูห้องเรียนได้ทัน ส่วนครูห้องเรียนอื่นที่ทำการสอน ปิดประตูได้ทัน และด้วยความเป็นห่วงความปลอดภัยนักเรียน ไม่คิดว่าคนร้ายจะเดินเข้ามาชกใบหน้าถึง 2 หมัด จนใบหน้าฟกช้ำและปากแตก ในช่วงเกิดเหตุยอมรับว่าหวาดกลัว แต่ที่น่าห่วงที่สุดก็คือ กลัวคนร้ายทำร้าย นักเรียน 14-15 คน ที่อยู่ในชั้นเรียน จึงตะโกนบอกเด็กให้หลบใต้โต๊ะ ทำให้เด็กเห็นเหตุการณ์เกิดอาการหวาดกลัว ร้องไห้ระงมทั้งชั้นเรียน สงสารมากๆ และมารู้ทีหลังว่าตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ดีใจมากๆ อยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และอยากให้วางมาตรการดูแลป้องกัน ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายไปมากกว่านี้

แม่ผู้ก่อเหตุ เคยตักเตือนแต่ก็ไม่ฟัง

ส่วน นางศรีจันทร์ อายุ 61 ปี แม่ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ยอมรับว่าลูกชายของตนเองนั้นติดยาเสพติดเสพยาบ้ามานับ 10 ปี ในก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีนิสัยก้าวร้าว แต่ในช่วงหลังเริ่มมีอาการโหวกเหวกโวยวาย เวลาขอเงินไม่ได้ เริ่มก้าวร้าวข่มขู่ตน ว่าจะทำลายบ้านพัก ตนได้พยายามสั่งสอนว่ากล่าวตักเตือนแต่ไม่เชื่อฟัง เคยแจ้งตำรวจฝ่ายปกครองมานำตัวไปบำบัดฟื้นฟู ประมาณา 1 – 2 เดือน สุดท้าย ก็เหมือนเดิม ไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น ส่วนตนมีลูกชาย 2 คน คนติดยาเป็นลูกชายคนโต จนกระทั่งเคยก่อเหตุทำร้ายครู ในโรงเรียนแห่งนี้ มาก่อน จนถูกดำเนินคดีติดคุกประมาณเกือบ 3 ปี พอพ้นโทษออกมา ได้ประมาณ 3 ปี คิดว่ากลับใจ แต่สุดท้ายมาก่อเหตุซ้ำอีก พยายามพูดคุยหาทางแก้ไขปัญหา ประสานทุกฝ่ายมาช่วยเหลือแต่ไม่สำเร็จ อยากบอกให้ลูกชายสำนึกผิดแต่ไม่ยอมรับฟัง สุดท้ายตกใจมากมาก่อเหตุทำร้ายคนอื่นอีก อยากให้มอบตัวรับผิดตามที่ได้กระทำลงไป และตนไม่ขอต่อสู้คดี ให้รับกรรมไปตามกฎหมาย ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมายบ้านเมือง

More Details
Nov 2, 2022
รับจุกๆ 60 ล้าน! ลูกค้ากองสลากพลัส ดวงโคตรเฮง ถูกรางวัลที่ 1 คนเดียว 10 ใบ

กรี๊ดหนักมากๆ หญิงชาว อ.พรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก รวยแบบไม่รู้ตัว ถูกรางวัลที่ 1 คนเดียว 10 ใบ รับ 60 ล้าน

สลากกินแบ่งรัฐบาล  1พ.ย.65

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 พ.ย. 2565

ภายหลังที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มีการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 2565 สำหรับรางวัลที่ 1 เงินรางวัล 6 ล้านบาท ได้แก่ หมายเลข 913106 รางวัลเลขหน้า 3 ตัว ได้แก่ 722 และ 839 เลขท้าย 3 ตัว ได้แก่ 343 และ 922 และรางวัลเลขท้าย 2 ตัว ได้แก่ 70

สลากกินแบ่งรัฐบาล

นอท ไลฟ์ผ่านFacebook กองสลากพลัส

ล่าสุด นอท พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ เจ้าของกองสลากพลัส ได้ทำการไลฟ์ผ่านFacebook กองสลากพลัส ถึงผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 65
“กองสลากพลัส” มีลูกค้าผู้โชคดีที่ซื้อลอตเตอรี่ออนไลน์ กับกองสลากพลัส งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 2565 1 ท่าน ดวงดีเป็นเศรษฐี ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 10 ใบ รับเงินรางวัล 60 ล้านบาท

ผู้โชคดี กองสลากพลัส

ผู้โชคดีงวดนี้ เป็นหญิง 1 ท่าน ชาว อ.พรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก

สำหรับลูกค้ากองสลากพลัส ผู้โชคดีงวดนี้ เป็นหญิง 1 ท่าน ชาว อ.พรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าตัวเองถูกกี่ใบ พอรู้ก็ถึงกับกรี๊ดหนักมากๆ เพราะว่าฟาดเงินรางวัลคนเดียวไปเลย 60 ล้านบาท

Cr. Facebook กองสลากพลัส

More Details
Oct 28, 2022
แม่โพสต์เตือน “ไนโตรเจนเหลว” ทำลูกปากพองได้เลือด เพจดังแนะวิธีกินให้ปลอดภัย

เพจดังอธิบายเข้าใจง่ายๆ ขนมที่ทำมาจากไนโตรเจนเหลว กินอย่างไรไม่ให้อันตราย แค่รอสักหน่อย ปลอดภัยแน่นอน

เด็กกินไนโตรเจนเหลว

ในกรณีเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ว่า

พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรซื้อให้ลูกกินนะคะ❌ด้วยความที่เราไม่รู้ว่ามันอันตราย แล้วก่อนหน้านี้ก็เคยซื้อกินแล้วไม่เป็นอะไร แต่ครั้งนี้ไนโตรเจนเหลวมันเยอะเกิน ตอนกินบอกแม่ว่าเจ็บปาก แล้วปากเริ่มพองเป็นสีขาว วันต่อมาเป็นสีแดงมีเลือดออกเจ็บแผล บอกว่า”แม่หนูจะไม่กินอีกแล้วกินอะไรก็เจ็บ “ ผู้ใหญ่กินยังเจ็บเพดานเลย

 Drama-addict

ในช่วงล่าสุดทางเพจ Drama-addict ได้ออกมาแชร์โพสต์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น

พร้อมกับอธิบายเพิ่มเติมว่า คุณแม่ของน้องฝากมาเป็นอุทาหรณ์ เป็นขนมที่ทำด้วยไนโตรเจนเหลว อธิบายงี้ การใช้ไนโตรเจนเหลวมาทำขนม ตามหลักถือว่าปลอดภัย คือเอามาเป็นสารสร้างความเย็น ทำให้ขนมมันแข็งตัวเย็นจัดในเวลาอันสั้น แล้วเวลาจะกินเนี่ย เราจะรอให้ไนโตรเจนเหลวมันระเหยไปให้หมดก่อน ถึงค่อยกิน แบบนั้นโอเค ปลอดภัย แต่ถ้ารอไม่นานพอ แล้วซัดขนมหรืออาหารที่ใช้ไนโตรเจนเหลวลงไป โดยไนโตรเจนเหลวยังระเหยไม่หมด มันจะไปทำให้เกิดความเสียหายกับเนื้อเยื่อ แบบน้ำแข็งกัดอ่ะครับ ที่ ตปท มีเคสซดขนมที่ทำด้วยไนโตรเจนเหลวลงไปทั้งถ้วย โดยไนโตรเจนเหลวยังระเหยไม่หมด ผลคือกระเพาะทะลุเลย น่ากลัวมาก ของน้องในเคสนี้ก็ประมาณนั้น ดีที่มีแผลแค่ในปากครับ

ไนโตรเจนเหลว

ไนโตรเจนเหลวกินได้ปลอดภัย แต่รอให้ไอขาวจางหายไป

สรุป ขนมที่ทำด้วยไนโตรเจนเหลว สามารถกินได้โดยปลอดภัย แต่รอนิดนึง รอให้ไอขาวๆมันหายไปให้หมดก่อนค่อยกินครับ

More Details